ชีวิตของเด็กเหมือนดอกไม้

ชีวิตของเด็กต้องพึ่งพิงสภาพแวดล้อมเกือบ 100% เหมือนดอกไม้ที่ต้องพึ่งพิงน้ำหล่อเลี้ยงที่เรารดให้
มันไม่สามารถเติบโตได้ด้วยตนเอง น้ำที่รดให้แก่ดอกไม่ ก็เหมือนความรัก การดูแลเอาใจใส่ของพ่อแม่และครู
รวมทั้งมิตรภาพและความเอื้อเฟื้อของเพื่อน ๆ บ่อยครั้งที่ผู้ใหญ่รดสารพิษใส่ดอกไม้นี้ ทั้งโดยตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ
ด้วยคำตำหนิ คำด่า และการสอนด้วยวิธีที่รุนแรง หรือทำให้เด็กได้อาย เป็นต้น
ได้รับสารพิษบ่อย ๆ ดอกไม้ก็เหี่ยวเฉาและบางดอกก็ไม่อาจจะเบ่งบานได้อีก
ดอกไม้ของคุณจะบานอย่างงดงาม หรือเหี่ยวเฉาคะ ?
เมื่อวานโพสต์ภาพดอกไม้และอุปมาว่าชีวิตของเด็กก็เหมือนดอกไม้ มีผู้อ่านบอกว่าชอบอุปมานี้ ก็เลยอยากเล่าที่มาให้ฟังสักนิด
ตอนที่อาจารย์ทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา ได้มีโอกาสดูแลทอม (ชื่อสมมุติ) เด็กชาย อายุ 11 ปี ที่พยายามฆ่าตัวตาย แม่เล่าว่าได้ยินเสียงทอมทะเลาะกับน้องแล้วเงียบไป แม่ก็เลยไปตามหาลูก แต่หาเท่าไรก็ไม่เจอ ในที่สุดก็ไปเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วพบทอมอยู่ในสภาพไม่รู้ตัวและหน้าเขียว ที่คอมีเนคไทของคุณพ่อรัดอยู่
ทอมถูกรับไว้ในห้องไอซียู และในที่สุดเมื่ออาการปลอดภัยแล้วก็ถูกส่งมาปรึกษาจิตแพทย์
อาจารย์วินิจฉัยว่าทอมเป็นโรคซึมเศร้าแบบรุนแรงที่เรียกว่า major depressionได้รักษาโดยให้ยาแก้เศร้าและทำจิตบำบัดทั้งครอบครัว ครอบครัวนี้มีปัญหาสัมพันธภาพ พ่อไม่อยู่ เพราะเป็นนาวิกโยธินต้องไปประจำฐานทัพที่เยอรมนี แม่ต้องเลี้ยงลูกตามลำพังและแม่เองก็จัดการกับปัญหาในการเลี้ยงลูกไม่ได้ ลูกไม่เชื่อฟัง ทะเลาะกันบ่อยมาก การทะเลาะก็มักจะลงเอยในแบบที่ต้องต่อว่าทอมทุกครั้งว่า ลูกโตแล้วทำไมไม่รู้จักยอมน้อง เวลาแม่เหนื่อยก็คุมอารมณ์โกรธไม่ได้ ก็ลงกับทอมนั่นแหละ
ในที่สุดความรู้สึกโดดเดี่ยว ไม่มีใครเข้าใจ ที่สะสมมานานก็นำไปสู่การพยายามทำร้ายตัวเอง
โชคดีจริงๆที่ไม่สำเร็จ
อาจารย์ดูแลทอมอยู่ประมาณหนึ่งเดือน วันที่ทอมออกจากโรงพยาบาล แม่พูดกับอาจารย์ว่า
“ขอบคุณคุณหมอมาก ตอนที่เข้ามาโรงพยาบาลลูกของดิฉันเหมือนดอกไม้ที่เหี่ยวเฉา แต่เดี๋ยวนี้เค้าเบ่งบานอีกครั้ง”
อาจารย์ชอบจัดดอกไม้ พอเห็นดอกไม้เหี่ยวๆ ก็มักจะเอาไปแช่น้ำใหม่ๆ สะอาดๆ
พอมันฟื้นตัวก็มักจะยิ้มกับตัวเองว่า ดีจัง สวยอีกครั้งแล้วล่ะ
ความรันทดใจที่เห็นเด็กคนหนึ่งที่คอมีรอยเขียวคล้ำและแววตาฉายความเศร้า เมื่อกลับมาเห็นรอยยิ้มอีกครั้ง ความปิติยินดีที่เกิดขึ้นมันมากเหนือคำบรรยาย
อาจารย์ก็เลยจำเรื่องของทอมได้แม่นมาก และถ่ายทอดไว้ในหนังสือ “เรื่องเล่าในห้องสีเบจ”
ชีวิตของเด็กก็เหมือนดอกไม้ จะเหี่ยวเฉาหรือเบ่งบานอย่างงดงามก็ขึ้นอยู่น้ำที่พ่อแม่รดให้ในแต่ละวัน
วันนี้คุณรดน้ำแบบไหนให้ลูก?
อยากให้ดอกไม้เบ่งบานแบบสวยงามเรียนบทเรียนออนไลน์ “เลี้ยงลูกใหม่ ปั้นให้ดี”