“หัวหน้าบอกว่ากลัวเค้าจะฆ่าตัวตาย แต่หนูกลัวว่าหนูจะฆ่าเค้าตายเสียก่อน” สาวน้อยพูดเสียงดังขณะลุกขึ้นจากเก้าอี้
“หนูรู้ไหม… วิธีฆ่าคนให้ตาย…”
“ดีที่สุดก็คือปล่อยให้เขาตายเอง”
เธอหยุด หันมายิ้มนิดหนึ่ง แล้วเดินออกไปจากห้อง
สาวน้อยคนนี้เพิ่งทำงานได้สักสี่เดือนหลังจากจบมหาวิทยาลัย เธอถูกเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งกลั่นแกล้ง ดูเหมือนเพื่อนคนนั้นจะจงเกลียดจงชังเธออย่างมาก ใช้วิธีปลอม IG แล้วใส่ร้ายป้ายสี ด่าเธอเสียๆหายๆ ด้วยคำหยาบ
เธอเล่าให้หัวหน้าฟัง หัวหน้าได้แต่พูดว่าจะจัดการให้ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรจริงจัง หัวหน้าคิดว่าเพื่อนคนนี้คงมีปัญหาทางจิตและเกรงว่าหากไปทำอะไรเข้า เพื่อนคนนี้อาจทำร้ายตัวเองขึ้นมา
การกระทบกระทั่งกันกับเพื่อน เป็นปัญหาที่พบบ่อยในกลุ่มเด็กหญิงมากกว่าเด็กชาย ส่วนใหญ่จะรุนแรงในช่วงมัธยมต้น พอช่วงมัธมปลายและในมหาวิทยาลัย ปัญหามักจะดีขึ้น แต่ในเด็กหญิงหลายคน ปัญหาอาจจะค้างคาอยู่ ทำให้เกิดความทุกข์ได้ยาวนาน หลายคนสูญเสียความเชื่อมั่น เป็นโรคซึมเศร้าไปก็มี
แต่จะทำอย่างไรดี? เราคงไม่สามารถทำให้ทุกคนรักเรา หากจะมีใครสักคนไม่ชอบหน้าเราหรือเกลียดเราเข้ากระดูกดำ เราควรตอบสนองอย่างไร?
คำแนะนำที่อาจารย์ให้กับสาวน้อยคนนี้ก็คือ พิจารณาตัวเองก่อน
เราทำอะไรที่อาจไปกระตุ้นต่อมโกรธ-เกลียดของเพื่อนเข้า เมื่อรู้แล้วก็จงแก้ไขให้ดีขึ้น แต่หากมันไม่มีอะไร หรือไม่ใช่ความผิดของเรา ก็จงปล่อยไป
หากคนยังคงกลั่นแกล้งเรา วิธีที่ดีที่สุดคือทำใจให้นิ่ง
การศึกษาวิจัยพบว่าทั้งความโกรธและความเกลียดมีผลต่อสุขภาพ โดยทำให้หัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตสูงขึ้น ฮอร์โมนความเครียดที่ชื่อ cortisolสูงขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้เกิดอาการต่างๆ ทั้งปวดหัว อาหารไม่ย่อย นอนไม่หลับ ซึมเศร้า กังวลเครียด
แต่ที่สำคัญคือการศึกษาวิจัยของ Washington State University ที่พบว่าคนที่มีความโกรธเกลียดรุนแรงนั้นจะมี
แคลเซี่ยมเกาะที่หลอดเลือดหัวใจ และมีโอกาสที่จะเกิดหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันสูงกว่าคนทั่วไปถึงสามเท่า
อย่าไปทำอะไรคนที่โกรธเกลียดเราเลย ปล่อยให้เขาตายเองเถอะ!