ลูกสาวจะเป็นอย่างไร (amygdala hijack)

บ่ายนี้ไปสอนวิชาจิตบำบัดที่จุฬาฯ เคสที่ลูกศิษย์เอามาปรึกษาเป็นเคสที่ต้องทำการบำบัดคู่สมรส
คู่นี้ฝ่ายหญิงอารมณ์ร้อน ฝ่ายชายก็เลยถอยหนี
ปัญหาที่เกิดขึ้นในครอบครัวก็เลยแก้ไม่ได้
ผู้ชายเล่าว่า เวลาเธอโกรธ ถึงกับพูดกับเขาว่า “มึงจะเอายังไง! ไอ้เหี้ยเอ้ย”
คู่นี้เรียนจบปริญญา งานการก็ดี นี่ถ้าผู้ชายไม่ใจเย็น สงสัยคงโดน….
สอนเสร็จห้าโมงเย็น เดินมาขึ้น BTS รถไม่แน่นเท่าไหร่ พอจะยืนไปพลาง เอนจอยบทสนทนาไปพลาง
มึงจะมาจับตัวกูทำไม? ถ้ากูล้มมึงก็ล้มด้วย ทำไมมึงไม่จับคนที่ยืนได้มั่นคงกว่า? อีนี่ยังไงล่ะ!
เออ! กูไม่จับมึงก็ได้วะ ไอ้เหี้ย แค่นี้เอง จับไม่ได้เหรอ?
กูก็พูดเล่นว่ะ
เออ วันพรุ่งนี้ตกลงมึงจะไปกับแม่มึงเปล่า? แล้วอีน้อย มึงจะนัดกันตรงไหนตอนบ่ายน่ะ
ไอ้เหี้ย อย่าสายนะโว้ย!
แล้วก็มีมึงกูไอ้เหี้ยไอ้ห่าตามมาอีกเยอะ เสียงคุยกันไม่เบา หลายคนในรถได้ยินก็มองหน้าสามสาวในยูนิฟอร์มแขนยาวจากโรงเรียนดัง แต่ทั้งหมดก็ดูไม่สนใจ
เวลาที่คนเราคุมอารมณ์ไม่ได้ นิสัยหรือความเคยชินดั้งเดิมก็โผล่ออกมา เพราะ เกิด
‘amygdala hijack’
คือ amygdala สมองส่วนอารมณ์ เทคโอเวอร์ สมองส่วนที่คิด เลยไม่ทันได้คิดว่าควรทำอะไร เหมาะสมหรือไม่ ถ้าเคยพูดหยาบจนชิน คำหยาบก็ออกมาเป็นชุดได้เลย
เพราะเด็กผู้หญิงยุคใหม่พูดจากันแบบนี้ พอแต่งงานมีคู่ ก็อาจลืมตัว เป็นแบบเคสที่เล่าให้ฟัง
โชคดี สามีใจเย็น ก็รอดตัวไป
โชคร้าย สามีใจร้อน ก็อาจโดน…
โดนอะไร? เดาออกไหมคะ?