ว่าด้วยเรื่องของเมียน้อย (mistress)

ไปเจอหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ Mistresses, A History of the Other Woman เขียนโดย Elizabeth Abbott เธอผู้นี้เป็น Research Associate อยู่ที่มหาวิทยาลัยโตรอนโต
คำว่า mistress อนุภรรยา ภรรยาน้อย เมียน้อย เมียเก็บ
(จริงๆแล้วยังมีคำแปลอื่นๆอีก)
Abbott ทำการค้นคว้าชีวิตของผู้หญิงที่เป็นเมียน้อยหรือเมียเก็บในประวัติศาสตร์โบราณตั้งแต่สมัยกรีกมาจนถึงสมัยปัจจุบันจำนวน 80 คนแล้วมาตีแผ่ไว้ในหนังสือเล่มนี้ พร้อมกับตั้งคำถามว่า
เราก็รู้อยู่ว่าผู้ชายได้อะไรจากการมีเมียน้อย
แล้วผู้หญิงล่ะ ได้อะไรจากการเป็นเมียน้อย?
ในเล่มมีเรื่องราวชีวิตของเมียน้อยหลายคนที่เราคงเคยได้ยินชื่อ เช่น คามิลล่า ปาร์กเกอร์ โบว์ลส์ ที่ตอนนี้กลายเป็นดัชเชสแห่งคอร์นวอลไปแล้ว มาริลีน มอนโร ดาราภาพยนตร์ชื่อดัง ซึ่งเป็นผู้หญิงของประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนเนดี้ รวมทั้งเรื่องราวของผู้ชายหลายคนที่มีสัมพันธ์กับผู้หญิงที่ไม่ใช่ภรรยา เช่น ประธานาธิบดีบิล คลินตันและประธานาธิบดีฟร็องซัว มีแตร็อง แห่งฝรั่งเศส รวมทั้งเจ้าพ่อ ผู้มีอำนาจ และเศรษฐีอีกหลายคน
คำถามที่ว่า ทำไมผู้หญิงจึงเลือกชีวิตแบบนี้?
มีคำตอบหลายแบบ ในบางรายอาจเป็นแฟชั่นหรือความหลงใหล (คล้ายเด็กสาวที่อ่านนวนิยายประโลมโลก แล้วใฝ่ฝันถึงชายหนุ่มรูปหล่อ) บางรายก็เป็นเรื่องของความเพ้อฝันหรือความตื่นเต้น เพราะมันดูคล้ายกับเกอิชาของญี่ปุ่น หรือนางในฮาเร็มของสุลต่าน เป็นต้น แต่ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของเงิน ความช่วยเหลือทางการเงินเป็นสิ่งที่ดึงดูดใจให้ผู้หญิงตัดสินใจที่จะอยู่ในสภาวะนี้ และผู้หญิงหลายคนอยากมีความรักโดยที่ไม่ต้องทำงานเหนื่อยในครัว!!
Abbott เขียนไว้ทีเล่นทีจริงว่า
การเป็นเมียน้อยหรือเมียเก็บเป็นเหมือนอาชีพอย่างหนึ่ง
เพราะว่าถ้าทำดีก็จะได้โปรโมชั่น และถ้าทำนานก็จะได้รับบำเหน็จบำนาญ (อันนี้ไม่รู้ผู้อ่านเห็นด้วยหรือเปล่า???)
อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วก็รู้สึกปลง ว่า เออหนอ! นี่คือความจริงของชีวิต ชีวิตแต่งงานระหว่างชายหญิงมันไม่ได้ราบรื่นเท่าไหร่ มันมีความรักก็จริง แต่มันก็มีการโกหกหลอกลวง ความไม่สัตย์ซื่อ
ในขณะที่เราบอกว่าสถาบันครอบครัวเป็นอะไรที่สูงส่งแล้วเราต้องรักษามันไว้ ความเป็นจริงก็คือ มีหญิงชายเยอะมากที่มีพฤติกรรมบั่นทอนสถาบันครอบครัว และทำให้ความรักระหว่างสามีภรรยาที่เป็นสิ่งดีงามและควรถนอมรักษาไว้ และความเป็นพ่อแม่ซึ่งเป็นบทบาทที่สำคัญยิ่งนั้นหม่นหมอง
อ่านแล้วก็สลดใจ แม้บางคนจะโต้แย้งว่า มันเป็นชีวภาพ เราถูกโปรแกรมมาแบบนั้น แต่อาจารย์ก็ยังรู้สึกว่า มันเป็นด้านมืดของความเป็นมนุษย์ทีเดียว
โอเค! ขอยอมรับความจริงว่า มนุษย์เรามีด้านมืด และวัฒนธรรมเมียน้อยเมียเก็บ นั้นมีมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์และคงจะอยู่คู่โลกใบนี้ไปอีกนาน
แต่ขอเชื่อว่าชีวิตแต่งงานและชีวิตครอบครัวนั้นยังเป็นสิ่งที่งดงาม การแต่งงานยังคงเป็นสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องพยายามรักษาให้ดี
ความสัมพันธ์ในชีวิตคู่เป็นสิ่งซับซ้อน
อาศัยความเห็นอกเห็นใจกัน การให้เกียรติกัน ความเข้าใจกัน และที่สำคัญคือความพยายาม ถ้าเราพยายามทำให้ดี มันจะต้องดีแน่นอน (จะว่าเป็นพวกโลกสวยก็ยอม!)
ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่หลักสูตร ติวเข้มชีวิตคู่