รู้สึกว่าสู้ไม่ไหว เราไม่ดีพอ เราคงทำไม่ได้ มันยากเกินไป ?
“รู้สึกว่าสู้ไม่ไหว เราไม่ดีพอ เราคงทำไม่ได้ มันยากเกินไป มันคงไม่ดีพอ”
สุภาพสตรีวัย 60 สรุปถึงความรู้สึกของเธอ
เธอเล่าถึงชีวิตในวัยเด็กว่าสุขสบายมาก พ่อแม่เลี้ยงดูอย่างดีเพราะพ่อแม่เป็นเจ้าของกิจการและร่ำรวย จึงมีพี่เลี้ยงหลายคน ชีวิตแสนสบาย ไม่ต้องหยิบจับอะไรเลย
มาถึงวันนี้ มองย้อนกลับไปในชีวิตที่ผ่านมาก็พบว่า ตัวเองไม่ประสบความสำเร็จ ยังมีความฝันบางอย่างที่ยังค้างอยู่ แต่เธอก็รู้สึกว่าคงจะทำให้เป็นจริงไม่ได้
“ดิฉันอยากขจัดความรู้สึกแบบนี้เพื่อจะทำเวลาที่เหลืออยู่ให้ดี ดิฉันอยากภาคภูมิใจในตัวเอง ว่าตัวเองก็ทำบางอย่างสำเร็จ”
ขณะที่ฟังเธอพูด อาจารย์ก็อุทานในใจว่า ไม่น่าเชื่อเลยว่า สิ่งที่พ่อแม่ทำลงไปในชีวิตของลูกจะส่งผลยาวนานถึงเพียงนี้! (อันที่จริงก็เจอเคสแบบนี้มาไม่น้อย แต่ก็อุทานกับตัวเองแบบนี้ทุกครั้ง)
ความรู้สึกไม่ดีพอ ไม่เก่งพอ ไม่มีประสิทธิภาพ ไม่มั่นใจ ไม่ได้เกิดจากบ้านที่เลี้ยงลูกแบบด่าทุกเรื่องหรือตำหนิทุกจุดเท่านั้น
แต่อาจเกิดจากบ้านที่เลี้ยงลูกแบบคุณหนู
คือทำให้เด็กมากไปจนเด็กไม่ได้ทำเอง ปกป้องมากไปจนเด็กไม่ได้เผชิญปัญหา ดูแลมากไปจนกลายเป็นคนที่ต้องพึ่งพิงคนอื่น ยืนอยู่บนขาของตัวเองไม่ได้
ลูกที่เป็นคุณหนูแบบนี้จะรู้สึกว่าตัวเอง
-ไม่เก่งพอเพราะไม่เคยทำ
ไม่เคยทำเพราะมีคนทำให้
-อ่อนแอเพราะสู้ไม่ได้
สู้ไม่ได้เพราะสู้ไม่เป็น
สู้ไม่เป็นเพราะไม่เคยสู้
ไม่เคยสู้เพราะมีแต่คนทำให้
คนที่ถูกเลี้ยงเป็นคุณหนูแบบนี้ อาจจะมีคนอิจฉาในความสุขสบาย แต่จริงๆแล้วอาจารย์คิดว่าน่าเห็นใจมาก
พ่อแม่ตายไปแล้ว แต่ลูกยังต้องเผชิญชีวิต เผชิญแบบคนพิการไม่ใช่แบบคนแข็งแรง
นี่ถ้าพ่อแม่ฟื้นขึ้นมาและรับรู้ถึงปัญหาของลูก เดาว่าคงเสียใจน่าดูl
แนะนำอ่านหนะงสือ “สร้างชีวิตใหม่” และเรียนบทเรียนออนไลน์ “เลี้ยงลูกใหม่ ปั้นให้ดี”
