บทความสำหรับบุคคล การพัฒนาตนเอง

พอ…ไม่เสียดายและไม่เสียใจ

ไม่เสียใจไม่เสียดาย

เมื่อคืนตอนหนึ่งทุ่ม กำลังจะเข้าห้องพักเพื่อไปเตรียมตัวไลฟ์ “เลี้ยงลูกใหม่ปั้นให้ดี” แต่บังเอิญมองขึ้นไปบนฟ้า เห็นพระจันทร์ดวงโต ก็เลยเดินไปที่หาด เพื่อดูว่าพระจันทร์บนผืนน้ำจะสวยสักแค่ไหน แล้วก็เห็นตามรูปนี้ล่ะคะ

แสงสีทองสะท้อนลงมาบนผืนน้ำทะเลที่ราบเรียบ ลมสงบไม่มีคลื่นเลย

นั่งลง savour ความงามที่อยู่ตรงหน้า ในนาทีนั้นรู้สึกว่า โลกนี้มีสิ่งสวยงามมากมายให้เราชื่นชม เพียงแต่เราไม่ค่อยมีเวลา บางทีเราก็เร่งฝีเท้า เดินอย่างรวดเร็วจนมองไม่เห็นมัน

รปภ.บอกว่า “เสียดายที่คุณหมอไม่ได้มาดูเมื่อคืน สวยกว่าคืนนี้มาก เพราะเมื่อคืนเป็นวันวิสาขบูชา พระจันทร์เต็มดวง สว่างไปทั่วท้องทะเลเลยครับ”

ตอบรปภ.ว่า “ดีจังนะที่เธอได้เห็นอะไรที่สวยงาม”

นึกต่อในใจว่า “แต่สำหรับฉันแค่นี้ก็งดงามเกินจะบรรยายแล้ว ฉันไม่เสียดายเลย”

ไม่เสียดายหรอกที่พลาดบางสิ่งบางอย่างที่ผู้คนบอกว่า “ดีกว่า”

เพราะในชีวิตของคนเรา มันขึ้นอยู่กับ “ความพอ”


คำว่า “พอ” นี้ เป็นคำที่ประทับใจมาก ครั้งหนึ่งตอนเข้าทำงานที่คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ใหม่ๆ ท่านหัวหน้าภาควิชาจิตเวชศาสตร์ ศาสตราจารย์ พญ.สุวัทนา อารีพรรค เรียกตัวไปพบ ไปนั่งรออาจารย์อยู่ในห้องทำงานของท่าน ตาก็เหลือบไปเห็นกระดาษแผ่นหนึ่งที่ท่านเขียนข้อความนี้ สอดอยู่ใต้กระจกโต้ะทำงาน

“มีน้อยเหมือนมีมาก หากรู้จักพอ”

ชอบมาก เลยแอบจดใส่สมุดโน๊ตของตัวเอง แล้วไปเขียนติดไว้ที่ห้องทำงานบ้าง อ่านมันทุกวันจนซึมเข้าไปในใจ

จำไม่ได้ว่าท่านอาจารย์พูดอะไรในวันนั้น แต่ประโยคนี้อยู่ในใจลูกศิษย์มาจนทุกวันนี้

“พอ” …..มากพอแล้ว ดีพอแล้ว อิ่มพอแล้ว สวยพอแล้ว….
ไม่เสียดายและไม่เสียใจในอะไรอีกแล้ว

Similar Posts