Stop Crying, Paul. You can’t have everything in life.

ครั้งหนึ่งไปสหรัฐอเมริกา เพื่อนอาสาขับรถพาไปเที่ยว โดยขนหลานที่บ้านไปสองคน ตัวเล็กอายุ 3 ขวบ ชื่อพอล อีกคนชื่อไมค์อายุ 10 ขวบ ช่วงที่รอผู้ใหญ่ขนขนมนมเนยไปปิคนิค พอลก็เริ่มงอแง ร้องไห้ขยับตัวไปมาในเก้าอี้ car seat ไมค์ซึ่งรับหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง พูดหน้าตาซีเรียสกับเจ้าหนูว่า
“Stop crying, Paul . You can’t have everything in life.”
“หยุดร้องซะ พอล เธอไม่ได้ทุกอย่างในชีวิตหรอก”
อันที่จริงอาจารย์ก็นั่งอยู่ข้างๆ ในตอนแรกพยายามปลอบพอล แต่พอไม่ได้ผลก็เลยปล่อยให้ร้องไป..
พอไมค์พูดประโยคนี้ พอลหยุดร้องทันที! (คงเป็นเพราะเห็นสีหน้าไมค์เอาจริง มากกว่าหยุดร้องเพราะเข้าใจความหมาย)
ได้ยินคำพูดของไมค์ อาจารย์ก็หยุดเหมือนกัน คือสมองหยุดกึกด้วยความรู้สึกทึ่งว่าเด็ก 10 ขวบพูดได้อย่างนี้เชียวหรือ สงสัยคงได้ยินพ่อแม่พูดกัน หรือไม่ก็คงถูกพ่อแม่สั่งสอนด้วยประโยคนี้
แต่ไม่ว่าไมค์จะลอกแบบประโยคนี้มาจากใคร ที่ไหน และเมื่อไหร่ก็ตาม นั่นไม่สำคัญ
สิ่งสำคัญคือ ประโยค “Stop crying. You can’t have everything in life.” คือคาถาหยุดทุกข์ ❗️
คาถานี้อาจารย์เอาไว้ท่องให้ตัวเองฟังและเอาไว้บอกคนไข้เวลาทำจิตบำบัดด้วย
เมื่อเราอยากได้ แต่ไม่ได้ ก็จงหัดบอกกับตัวเองว่าเราไม่สามารถได้ทุกสิ่งที่เราต้องการ แล้วจงเดินออกไปจากตรงนั้น
อย่ามัวแต่ร้องไห้คร่ำครวญอยู่กับสิ่งที่เราไม่ได้ สิ่งที่เราไม่มี เพราะมันเป็นการเสียเวลาชีวิต และมันจะทำให้เกิดความผิดหวัง เสียใจ และขมขื่น ในหลายคน พอมารู้ตัวอีกที ก็ตกอยู่ในทรายดูดเสียแล้ว ทรายดูดนี้ก็คือโรคซึมเศร้านั่นเอง
ไม่มีใครได้ทุกสิ่ง หัดละสายตาจากสิ่งที่ไม่ได้ มองไปยังสิ่งที่มีอยู่ และ appreciate สิ่งนั้น
และเราจะรู้สึกว่า หัวใจของเราเต็มขึ้น ❤️
แต่หากอยากทำให้ดีกว่านั้น ก็ลองตรวจสอบชีวิตดูอย่างไม่มีอคติ แล้วจะพบว่า แท้จริงแล้ว เราไม่ได้ขาดสิ่งใด เรามีเพียงพอ…..เพียงพอที่จะเดินไปบนถนนชีวิตอย่างมีความสุข เพียงพอที่จะเดินไปอย่างมีคุณค่าและอย่างภาคภูมิใจ!
🍀 อ่านบทความปั้นใหม่ได้ที่ http://bit.ly/blogpunmai
อยากเรียนรู้เทคนิคต่างๆและวิธีเลี้ยงลูกให้ดีและมีความสุข แนะนำบทเรียนออนไลน์ “เลี้ยงลูกใหม่ ปั้นให้ดี”