ศิลปะในการฟัง

ครั้งหนึ่งให้คำปรึกษาภรรยาที่มีปัญหาความสัมพันธ์กับสามีเธอเล่าว่าสามีเคยเล่าเรื่องงานให้เธอฟัง แต่ก็ลงเอยด้วยการทะเลาะกันทุกที “จนเดี๋ยวนี้เวลากลับมาบ้านเขาก็เฉย ๆ ไม่เล่าอะไรให้ฟังอีกแล้ว” เธอบอก

อาจารย์ก็คันปาก เลยพูดไปตรง ๆ ว่า

“เดาว่าคุณคงไปแนะนำวิธีแก้ปัญหาให้เขาล่ะสิ” (หากเป็นวิธีให้คำปรึกษาหรือทำจิตบำบัด เราจะไม่พูดตรงๆ อย่างนี้ เราจะตั้งคำถามเพื่อให้เคสคิดเองว่าที่ทำลงไปนั้นมันไม่ได้ผลเพราะอะไร)

“ใช่ค่ะ ดิฉันก็บอกเค้าว่าที่ทำไปน่ะ มันไม่ได้ผลหรอก ควรจะทำอีกอย่างหนึ่ง”

อันที่จริงก็เป็นความตั้งใจดีที่เธอบอกสามีอย่างนั้น แต่ความตั้งใจดีแบบนี้ผู้ชายมักไม่ค่อยซื้อหรอกค่ะ

มาฝีกศิลปะในการฟังกันดีกว่า

การที่สามีเล่าเรื่องงานให้ภรรยาฟัง เป็นตัวชี้ว่าความสัมพันธ์อยู่ในเกณฑ์ดีทีเดียว ขอแนะนำคุณผู้หญิงว่าคุณต้องมีศิลปะในการฟังสักหน่อย การฟังที่ดีเท่ากับเพิ่มความบวกให้กับสัมพันธภาพ ตรงกันข้ามการฟังที่ไม่ดีพอก็เท่ากับจุดชนวนระเบิดเลยทีเดียว

เทคนิครับฟังก็ไม่ได้ยากอะไร เพียงแต่ต้องอดกลั้นสักนิด และปิดปากสักหน่อย เพื่อจะได้ไม่พูดในสิ่งที่ไม่ควรพูด เทคนิคมีไม่กี่ข้อดังนี้ค่ะ

เทคนิคการฟังที่ดี

1.ฟังเรื่องราวที่เขาเล่าโดยไม่ขัดจังหวะ

2.ตั้งคำถามที่จะชวนให้เขาเล่าเรื่องมากขึ้น เช่น

“แล้วยังไงต่อ ?”
“แล้วคุณทำอย่างไร ?”
หากเป็นเรื่องดี ก็อาจจะตอบสนองแบบบวก เช่น
“ฟังดูน่าสนใจมาก”

3. ชวนเขาให้เล่าความปรารถนา เช่น “แล้วคุณอยากให้มันเป็นยังไง ?”

4.หากรู้สึกว่าเขาหนักใจ ก็อาจเสนอความช่วยเหลือโดยการบอกว่า “มีอะไรให้ฉันช่วยบ้างไหม ?”

5. สำคัญที่สุดคือข้อนี้ …อย่าบอกวิธีแก้ปัญหาถ้าไม่จำเป็น หรือถ้าเขาไม่ถามความเห็น (ผู้หญิงเราชอบแก้ปัญหาและชอบพูดตรง ๆ แบบไม่อยากเก็บอะไรให้ค้างใจ)

ผู้ชายส่วนใหญ่แค่อยากจะเล่าให้ภรรยาฟัง  แค่อยากระบายความรู้สึกอึดอัด หรือบางทีก็อยากจะบอกว่าเขาทำได้ดีอย่างไร (อยากให้ภรรยาชื่นชม)

เพราะฉะนั้นภรรยาไม่ควรจะให้ความเห็นในแบบที่บอกว่าสิ่งที่เขาทำ หรือวิธีที่เขาใช้นั้นยังไม่ดีพอและน่าจะทำอีกแบบหนึ่ง    และไม่ควรเสนอไอเดียว่าเธอมีวิธีใหม่ที่เจ๋งกว่า

แต่ถ้าเขาถาม ก็อย่าบอกในแบบที่ทำให้รู้สึกว่า คุณเก่งกว่าเขา คุณรู้ดีกว่า หรือวิธีที่เขาใช้นั้นไม่ได้เรื่อง อาจจะเพียงพูดว่า นี่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่คุณนึกออก   คุณไม่แน่ใจว่าจะแก้ปัญหาได้หรือไม่  แต่เขาอาจจะลองดูก็ได้

อยู่กับสามี ต้องลดความเป็น “สาวมั่น” ลง !

แล้วชีวิตคู่จะมั่นคงขึ้นอย่างแน่นอน

ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ หลักสูตรออนไลน์ติวเข้มชีวิตคู่