บทความสำหรับบุคคล การพัฒนาตนเอง

วิธีการสร้างสุขที่ยั่งยืน

เจอเด็กสาวคนนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว วันนี้เธอดูสดชื่นแจ่มใส บอกตรงๆว่าแปลกใจมากเพราะสองครั้งแรกที่พบกัน เธอมีอารมณ์เศร้าค่อนข้างมาก จนคิดว่าถ้าไม่ดีขึ้นในเร็ววัน ก็จะต้องให้ยาแก้เศร้าแล้ว

คุยกันไปได้สัก 5 นาทีอาจารย์ก็ถามเธอว่า “ดูหนูสดชื่นขึ้นกว่าเดิมมาก เกิดอะไรขึ้น ? เล่าให้ฟังหน่อยสิคะ”

เธอตอบว่า

“หนูคิดว่าไม่รู้จะอยู่กับความเศร้าไปทำไม อาจารย์รู้ไหมคะ แต่ก่อนนี้เวลาทะเลาะกับคุณพ่อคุณแม่หนูจะรู้สึกแย่มาก รู้สึกว่าทำไมฉันจะต้องเกิดมาในสภาพนี้ด้วย ที่จริงแล้วทุกอย่างในชีวิตดีหมด คุณพ่อคุณแม่หนูฐานะดี หนูได้อยู่โรงเรียนที่ดีที่สุด หนูไม่ใช่คนขี้เหร่ เพื่อนหลายคนบอกว่าหนูหน้าตาดี หนูมีทุกอย่างที่ตัวเองอยากได้ แต่กลับไม่มีความสุขเลย”

“แล้ววันนี้หนูเป็นยังไง?” อาจารย์ถาม

“วันนี้หนูรู้แล้วว่าหนูจะทำอย่างไรกับตัวเอง ถ้าหนูไม่เปลี่ยนแปลงตัวเองก็ไม่มีใครมาเปลี่ยนหนูได้ วันนี้หนูตั้งใจใหม่ว่าจะทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริง”

เมื่อพบกับคุณแม่ตามลำพัง ประโยคแรกที่คุณแม่พูดขึ้นก็คือ “อาจารย์ไปทำอะไรกับลูกของดิฉัน ? “

แล้วเธอก็เล่าต่อด้วยความดีใจว่า “เขาเปลี่ยนไปเป็นคนละคน สองสัปดาห์มานี้เขาไม่ทะเลาะกับดิฉัน เขานิ่งมาก แล้วเขาก็ตั้งใจทำการบ้านทุกวันโดยที่เราไม่ต้องบอก เขาเก็บมือถือ แทนที่จะเล่นเกมวันละ 3-4 ชั่วโมงแบบที่เคยทำ แล้วก็ตื่นเช้า ไม่ไปโรงเรียนสายอีกแล้ว อาจารย์ต้องมีคาถาวิเศษเสกลูกดิฉันให้เป็นคนใหม่แน่ๆ”

ไม่ได้มีเวทย์มนต์คาถาเลยนะคะ จริงๆแล้วทั้งหมดที่ทำก็ใช้หลักความรู้ทางด้านจิตเวชศาสตร์และจิตวิทยาพัฒนาการที่ร่ำเรียนมา  แต่ที่เพิ่มมาก็คือความรู้ทาง Positive psychology สาขาวิชาที่ค่อนข้างใหม่เกี่ยวกับการสร้างความสุข

ในการพูดคุยกัน 2 ครั้งแรกนั้น สิ่งที่พยายามทำก็คือ   เปลี่ยนวิธีคิดของเด็ก จากการที่จมอยู่กับอารมณ์ลบ ให้มาหล่อเลี้ยงอารมณ์บวกในตนเอง จากการที่มองแต่ปัญหา มาเป็นการมองถึงความเป็นไปได้ และจากการเป็นคนช่างฝันมาเป็นคนที่มีเป้าหมาย

การสร้างสุขที่ยั่งยืนให้กับลูก

ในการสัมมนา”เลี้ยงลูกให้สุขเป็น” วันที่ 16 กรกฎาคมนี้  อาจารย์จะสอนเรื่อง PERMA ซึ่งเป็นวิธีสร้างความสุขที่ยั่งยืนกว่าวิธีที่เราทำให้ลูกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

ในตอนเป็นเด็ก ลูกอาจจะไม่ได้มีปัญหาทางอารมณ์เท่าไหร ่แต่พอลูกเข้าวัยรุ่น เด็กเยอะมากที่มีอารมณ์เศร้าและกลายเป็นโรคซึมเศร้าวิตกกังวล หากคุณรู้จักวิธีสร้างความสุขและปลูกฝังทักษะนี้ในตัวลูก ก็จะเป็นการป้องกันไม่ให้ลูกเกิดปัญหาทางอารมณ์เมื่อโตขึ้น และความเชี่ยวชาญในการสร้างความสุขขึ้นในตนเองนี้จะเป็นสิ่งที่ปกป้องเขาไปตลอดชีวิต

สนใจสมัครอบรมได้ตามลิงค์นี้ค่ะ

http://www.dr-umaporn.com/courses/punmai-happiness2.html

#ปั้นใหม่ #เลี้ยงลูกให้สุขเป็น #เลี้ยงลูกใหม่ปั้นให้ดี

Similar Posts