จะกำอะไรไว้ในมือ? ตัวเราเองนี่แหละที่ทำร้ายตัวเอง

ถามหน่อย มีของ 3 สิ่ง
ถ้าจะเลือกกำไว้ในมือ
จะเลือกอะไร?ก.เม่น
ข.ลูกบอล
ค.กล่องดนตรี
อ้อ..music box อันนี้เป็นเพลง La vie en rose ด้วยนะ
#คลายเม่น

ครอบครัวเป็นอะไรที่ละเอียดอ่อน และซับซ้อน ความสัมพันธ์ภายในครอบครัว ถ้าไม่ดูแลให้ดีก็อาจจะนำมาซึ่งความเจ็บปวด ไม่ว่าจะเป็น ความสัมพันธ์ระหว่าง พ่อกับลูก แม่กับลูก พี่กับน้อง หรือปู่ย่าตายายกับหลาน
ในความเจ็บปวดนั้น มีความรู้สึกหลายอย่าง ทั้งโกรธ เสียใจ น้อยใจ ผิดหวัง นานวันเข้ามันก็ซึมลึก กลายเป็นความรู้สึกเศร้าและขมขื่น ใช้เวลานานนับปีกว่าจะเยียวยาได้ และในหลายกรณีอาจจะเยียวยาไม่ได้เลย พูดง่ายๆ โกรธและขมขื่น มองหน้ากันไม่ติด จนกระทั่งตายจากกันไปก็มี
สุภาพสตรีวัยสี่สิบคนหนึ่งมีอาการปวดตามตัวเป็นๆหายๆ ความเครียดที่เป็นสาเหตุของอาการปวด มาจากความสัมพันธ์ที่ “เป็นพิษ” ในครอบครัว แน่นอนทีเดียวปัญหาในครอบครัวมีมาตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก แต่นานวันเข้ามันก็สะสม และพอกพูน จนไม่อาจจะแก้ได้
เธอเล่าเรื่องราวแห่งความขมขื่นด้วยเสียงสั่นเครือ
“ดูคุณจะโกรธและขมขื่นมากทีเดียว
ใช่ค่ะ มันสะสม มันเป็นมาอย่างนี้หลายสิบปีแล้ว
คุณอยากจะทำอย่างไรกับมัน?
ดิฉันไม่รู้เหมือนกัน …. พยายามยกโทษและพยายามลืม แต่มันก็ทำไม่สำเร็จ
คงลืมได้ยากกระมัง เพราะเหตุการณ์มันถูกบันทึกไว้ในศูนย์ความจำในสมองแล้ว ….ส่วนเรื่องยกโทษก็คงต้องใช้เวลา เพราะว่าคุณถูกทำร้ายเป็นแผลลึก
ถ้าอย่างนั้นดิฉันจะทำยังไง?
คุณต้องการอะไรล่ะ?
ดิฉันอยากมีความสุข”
(ถึงตรงนี้อาจารย์ก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะช่วยเธอได้อย่างไร หันไปมองดูของเล่นที่วางอยู่ข้างหน้าต่าง เห็นเม่นที่ทำด้วยเปลือกหอย มันเป็นของที่ระลึกที่ซื้อมาจากหัวหินตอนลูกยังเล็ก หยิบเม่นมาวางบนโต๊ะ พร้อมกับลูกบอลเล็กๆ แล้วเปิดลิ้นชักควานหา music box ที่ซื้อมาจากฝรั่งเศสเมื่อห้าปีที่แล้ว
วางทั้งสามสิ่งเรียงกันบนโต๊ะ)
ลองกำแต่ละอย่างไว้ในมือสิคะ
(เธอหยิบเม่นมากำไว้)
กำให้แน่น อย่าให้หลุดมือ
(เธอบีบเจ้าเม่นไว้ในมือ) โอ๊ย! เจ็บ (แล้วเธอก็คลายเม่น วางมันลงบนโต๊ะ)
เจ็บใช่ไหม? หนามของมันแทงมือคุณ ยิ่งกำแน่นเท่าไหร่ก็ยิ่งเจ็บมากเท่านั้น… ความโกรธความขมขื่นก็เหมือนกัน…. ตอนนี้คุณกำลังกำมันแน่น ยิ่งกำแน่นเท่าไหร่ก็ยิ่งเจ็บปวดมากเท่านั้น… คลายมันออกบ้าง… หยิบอย่างอื่นขึ้นมากำแทนก็ได้นะ (ตรงนี้ต้องอาศัยศิลปะหน่อยนะ ทั้งน้ำเสียง และจังหวะการพูด อ้อ! ถึงตรงนี้อาจารย์ก็หยิย music box มาไขลานเสียเอง เพราะอยากฟังเพลง La vie en rose คลายเครียด55)
คุยกับเธอต่ออีกพักหนึ่ง จำไม่ได้ว่าตัวเองพูดอะไรบ้าง จำได้แต่ว่า ก่อนที่เธอจะเดินออกจากห้องไป เธอยิ้มแล้วพูดว่า
ดิฉันไม่เคยมองมันอย่างนี้เลย ไม่เคยรู้มาก่อนว่า ตัวเองกำความโกรธไว้แน่นแบบนี้ เป็นตัวเราเองแหละที่ทำร้ายตัวเอง
….ดิฉันรู้แล้วว่าจะต้องทำอะไรต่อไป
ขอบคุณเจ้าเม่นตัวนี้ ตอนที่ซื้อมันคงราคาสักสามสิบบาท แต่วันนี้มันทำงานเกินคุ้มทีเดียว!
ป.ล. ใครอยากคลายเม่นได้สำเร็จ แนะนำให้อ่าน “สร้างชีวิตใหม่” หนังสือที่จะช่วยให้คุณสลัดชีวิตเก่าทิ้งไป และมีชีวิตที่สดใหม่อย่างแท้จริง