I'm my sunshine • ปั้นใหม่ เลี้ยงลูกใหม่ ปั้นให้ดี

วันนี้มีความสุขจริงๆ เพราะพระอาทิตย์ส่องแสงจ้า เลยมานอนอาบแดดอย่างปลอดโปร่งใจที่หน้าหาด

สองสัปดาห์มานี้ ที่สมุยฝนตกทุกวัน ฟ้ามืดครึ้มจนรู้สึกหดหู่ใจ ภาวนาทุกคืนว่าขอให้พรุ่งนี้มีแดดดี อย่าให้มีเมฆมาบังพระอาทิตย์ของฉันเลย!

นึกๆไปก็ไม่อยากจะเชื่อว่าแสงอาทิตย์ ทำให้ความรู้สึกแตกต่างได้อย่างมากถึงเพียงนี้

เพราะอย่างนี้กระมังจึงมีคำเปรียบเทียบว่า

คู่รักเป็นเหมือนแสงแดดที่สาดส่องเข้ามาในชีวิต

ทำให้ชีวิตที่เคยหนาวเย็นนั้นอบอุ่น ชีวิตที่เคยมืดครึ้ม กลับเป็นสดใส ภาษาอังกฤษว่า You are my sunshine. ( ตอนเป็นเด็ก อาจารย์ชอบร้องเพลงนี้ You are my sunshine, my only sunshine. …Please don’t take my sunshine away. ใครเคยร้องบ้างคะ?)

นึกถึงสุภาพสตรีคนหนึ่งที่มาหา ตอนที่เธอนั่งลงในห้องตรวจเธอพูดว่า “ดิฉันไม่ได้มีปัญหาอะไรมาก เพียงแต่รู้สึกผิดหวัง”

อันที่จริงแล้ว ความผิดหวังเป็นปัญหาชิ้นใหญ่ของชีวิตเลยทีเดียวล่ะ โดยเฉพาะหากเป็นความผิดหวังในตัวบุคคลสำคัญในชีวิตของเรา ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ สามีภรรยาหรือลูกก็ตาม

เธอเล่าถึงความผิดหวังมากมายในตัวสามี

ฟังเรื่องราวของเธอแล้วก็นึกถึงคำพูดของ นักบำบัดคู่สมรสที่มีชื่อคนหนึ่งคือ Esther Perel เธอกล่าวว่า คนสมัยนี้มีความคาดหวังจากคู่รักมากเหลือเกิน ในสมัยก่อนความคาดหวังที่มากมายแบบนี้อาศัย “the whole village” หรือคนทั้งหมู่บ้าน ทำให้เรา แต่ทุกวันนี้เราเรียกร้องจากคนๆเดียว

เราคาดหวังให้คู่ของเราตอบสนองความต้องการหลายอย่าง

ไม่ว่าจะเป็นความมั่นคงทางการเงิน ความมั่นคงทางกายภาพ ความปลอดภัย ปัจจัยสี่ (เตรียมอาหารให้กิน) ความมั่นคงทางจิตใจ ความรู้สึกว่าเป็นที่รักและได้รับการยอมรับ เราต้องการให้เขา/เธอดูแลเอาใจใส่ อยู่ใกล้เราและพร้อมอยู่เสมอตรงนั้นเมื่อเราเรียกหา ทั้งยังต้องการให้เขาเติมเต็มจิตใจของเรา ช่วยรดน้ำให้ชีวิตของเราเติบโต

เราต้องการให้เขาเติมความรู้สึกมั่นคงและความรู้สึกเห็นคุณค่าของตัวเราเองด้วย เราต้องการให้เขาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด เป็นที่ปรึกษาที่อ่อนโยนและเข้าใจ เป็นเชียร์ลีดเดอร์ คอยตะโกนเชียร์ ปรบมือให้กำลังใจเราในทุกก้าวย่าง

ทั้งยังต้องการให้เป็นคู่รักที่ร้อนแรง….

การคาดหวังในคนคนเดียวแบบนี้เป็นภาระอันหนักอึ้ง มันทำให้อีกฝ่ายหมดแรงและความสัมพันธ์ตึงเครียด